Filler

วิธีรักษาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA)

Filler

วิธีรักษาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA)

About Filler

การฉีดฟิลเลอร์ คือ วิธีรักษาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปเติมเต็มในชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพ และมีการยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น ฟิลเลอร์จะทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง ใบหน้าอ่อนเยาว์ลง บวกกับคุณสมบัติอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ นอกจากฟิลเลอร์จะช่วยเรื่องริ้วรอย ยังนิยมฉีดเพื่อแก้ไขโครงสร้างใบหน้าในจุดต่าง ๆ เช่น ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ และฟิลเลอร์หน้าผาก โดยสามารถปรับสัดส่วนเหล่านี้ให้สวยงามขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HA ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว คอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังของคนเรามีใยคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและเต่งตึง การที่เส้นใยเหล่านี้ลดลง จะทำให้ผิวบาง เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายเมื่อฉีด Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณที่เป็นร่องริ้วรอย เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม จะทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเต่งตึงขึ้น การฉีดฟิลเลอร์จึงสัมพันธ์กับการแก้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ อย่างได้ผล

สำหรับคนที่สงสัยว่าฟิลเลอร์อันตรายไหม? ต้องทราบข้อมูลก่อนว่า ฟิลเลอร์ ชนิดเดียวที่ปลอดภัยที่สุดและผ่านการรับรอง คือ Hyaluronic Acid โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้อนุมัติว่า Hyaluronic Acid เป็นสารที่มีความปลอดภัย นิยมใช้ในวงการแพทย์และด้านความงามอย่างแพร่หลาย ฉีดแล้วสามารถสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย ในไทยฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่านอย. มีหลายยี่ห้อ แพทย์จะประเมินและเลือกใช้ฟิลเลอร์ตัวที่เหมาะกับบริเวณที่คนไข้ต้องการแก้ปัญหา เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุด

การจะเลือกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับจุดที่ต้องการฉีด ไม่มี ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ที่สามารถฉีดได้ทุกจุด ทุกสภาพผิว ดังนั้นเมื่อเข้ามาที่คลินิกคุณหมอซีจะเป็นคนประเมินวิเคราะห์ปัญหาของคนไข้แต่ละเคสและเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมซึ่งทางคลินิคจะใช้ทั้งหมด 4 แบรนด์

  • Classic
    อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
  • Deep
    อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
  • Sub-Q
    อยู่ได้นาน 8 เดือน
  • Definisse Restore
    อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Core
    อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Definisse Touch
    อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Teoxane RHA 1
    อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
  • Teoxane RHA 2
    อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Teoxane RHA 3
    อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
  • Teoxane REDENSITY 1
    อยู่ได้นาน 3 เดือน เป็นอย่างน้อย
  • Teoxane REDENSITY 2
    อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
  • Restylane Vital Light
    อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane Vital
    อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Volyme
    อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Defyne
    อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Classic
    อยู่ได้นาน 12 เดือน

ในการฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ CC หมอจะประเมินจากปัญหา และความต้องการของคนไข้ แต่ละคน เพื่อแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่ควรใช้อย่างเหมาะสมครับ จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นธรรมชาติถ้าเป็นส่วนที่มีร่องลึกหรือยุบตัวลงมาก ๆ ฉีดเสริมขมับ หน้าผาก ก็จะใช้ฟิลเลอร์มากกว่าจุดเล็ก ๆ อย่างใต้ตา หรือร่องแก้ม

  1. ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข
  2. แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีด
  3. ทำความสะอาดใบหน้า หากแต่งหน้ามาก็จะมีการเช็คเครื่องสำอางในจุดที่ฉีดออก
  4. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถข้อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้
  5. ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ส่วนในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว
  6. เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว หมอจะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น

หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)

หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย

ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด

ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน

อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ครับ

ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้ครับ

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
  • อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
  • งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วยครับ