คุณหมอซีจะแนะนำอีก 1 ทางเลือกแทนการศัลยกรรมที่ได้เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จนั้นคือการเติม Filler ปรับคางค่ะ เพราคนเอเชียส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้าค่อนข้างสั้น และข้อดีของการเติมฟิลเลอร์คือเจ็บตัวน้อยกว่าไม่ต้องพักฟื้นและไม่มีรอยแผล และการเติมฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้นานราวๆ 1 ปีกว่าๆเลยค่ะ และการเติมฟิลเลอร์หลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไป พบว่าฟิลเลอร์จะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนทำให้มีเนื้อคางมากขึ้น เมื่อเติมครั้งถัดไปจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ลดลงด้วยค่ะ
ริ้วรอยที่โบทอกที่แก้ได้คือ DYHAMIC LINE ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ขยับกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอย ตีนกา หน้าผาก ส่วนที่แก้ไม่ได้ คือ Static line ถึงไม่ขยับหน้าก็เห็นริ้วรอย หรือเรียกว่า ริ้วรอยคงที่ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือ รอยที่คอ หรือคนที่เริ่มมีอายุมาก จะมีริ้วรอยที่หน้าผากแม้ไม่ขยับก็เห็นรอยริ้วๆ และคุณหมอซีแนะนำเป็น ฟิลเลอร์ และกลุ่ม Biostimulater ที่ช่วยทำให้ริ้วรอยต่างๆดูลดลงและช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
ส่วนใหญ่จะเกิดจาก ความเครียดและความกลัวโดยมักพบที่คนไข้พึ่งเคยฉีดหรือเคยมาทำครั้งแรก เรียกภาวะนี้ว่า อาการ “เป็นลมธรรมดา (Vasovagal syncope; VVS)” [หรืออาจเรียกว่า “Common faint”] เป็นอาการเป็นลมแบบที่พบได้บ่อยมากที่สุด และมักไม่เป็นอันตราย การเป็นลมชนิดนี้เกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองมากเกินต่อตัวกระตุ้น (Trigger) บางอย่าง เช่น การเห็นเลือด มีอารมณ์เครียด หรือความปวด ตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายมีความดันโลหิตต่ำชีพจรช้าลงอย่างฉับพลัน ผลที่ตามมาคือมีเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงทำให้เป็นลม แต่ภาวะนี้จะเป็นแค่ชั่วคราวสั้นๆ วิธีการรักษาเบื้องต้นในคลินิกวามงามคือ คุณหมอก็จะหยุดการทำหัตถการก่อน และจะให้คนไข้นั่งขึ้นมา หรือนอนราบลงไป แต่จะไม่ให้ยืนนะคะเลี่ยงการเป็นลม และจะให้คนไข้ดมแอมโมเนีย ร่วมกับการให้คนไข้ดื่มน้ำ ซึ่งทางคลินิกจะให้ทั้งน้ำเปล่าและน้ำแดง หายใจเข้าออกลึกๆ ผ่อนคลายๆ และไม่เกิน 5 นาทีอาการของคนไข้ส่วนใหญ่จะดีขึ้น
หน้าฉ่ำ คือ ดิ้วอี้สกิน แบบผิวชุ่มชื่น หน้าฉ่ำวาว แต่หน้ามันคือ ต่อมไขมันบริเวณใบหน้าผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป หรือเรียกว่า ออยลี่สกินค่ะ ซึ่งหน้ามันเกิดจากหลายปัจจัย เช่น กรรมพัน สภาพอากาศ ฮอร์โมน การรับประทานอาหาร หรือการใช้สกินแคร์ที่ไม่ถูกกับสภาพผิว ปัญหาที่ตามมาคือ สิวขึ้น หน้าหมอง รูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด
